วิธีสมัครบัญชีซื้อหุ้นต่างประเทศ

แชร์เรื่องนี้

การสมัครบัญชีซื้อหุ้นต่างประเทศ (เช่น หุ้นสหรัฐฯ, จีน, ญี่ปุ่น ฯลฯ) สำหรับนักลงทุนในประเทศไทยสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการใช้โบรกเกอร์ในประเทศไทยที่มีบริการลงทุนต่างประเทศ หรือเปิดบัญชีตรงกับโบรกเกอร์ต่างชาติ ต่อไปนี้คือขั้นตอนและตัวเลือกหลัก ๆ:

วิธีซื้อหุ้นต่างประเทศ ผ่านโบรกเกอร์ในไทย

1. เลือกโบรกเกอร์ไทยที่ให้บริการหุ้นต่างประเทศ โบรกเกอร์ที่เปิดให้ซื้อหุ้นต่างประเทศ

โบรกเกอร์ไทยตลาดที่รองรับจุดเด่น
SCB Securities (SCBS)สหรัฐฯ, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น ฯลฯแอป “Easy Invest” ใช้งานง่าย
Bualuang Securities (BLS)สหรัฐฯ, ฮ่องกงค่าธรรมเนียมต่ำ
Krungsri Securitiesสหรัฐฯ, ฮ่องกงมีบทวิเคราะห์หุ้นต่างประเทศให้
Finansia Syrusสหรัฐฯ, เวียดนาม ฯลฯรองรับหลายตลาดผ่านแอปเดียว
Nomuraสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น ฯลฯเหมาะกับผู้ที่มีพอร์ตขนาดกลางขึ้นไป

ขั้นตอนการสมัคร:

  1. เตรียมเอกสาร
    • บัตรประชาชน
    • สมุดบัญชีธนาคาร
    • หลักฐานแสดงรายได้/แหล่งที่มาของเงิน (บางกรณี)
    • Tax ID (หากต้องการซื้อหุ้นในสหรัฐฯ)
  2. สมัครบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ
    • สมัครผ่านแอป/เว็บไซต์ของโบรกเกอร์
    • บางแห่งอาจให้เลือก “บัญชีต่างประเทศ” แยกจากบัญชีหุ้นไทย
  3. ผ่านกระบวนการ KYC (รู้จักลูกค้า)
    • อาจต้องกรอกแบบสอบถามความเข้าใจในการลงทุน และความเสี่ยง
  4. โอนเงินไปยังบัญชีลงทุนต่างประเทศ
    • โบรกเกอร์จะอธิบายขั้นตอนการโอนเงินบาทไปแปลงเป็นสกุลต่างประเทศ
  5. เริ่มซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์
    • เช่น eFin Trade Plus, Streaming หรือระบบของโบรกเกอร์ต่างประเทศที่เชื่อมต่อผ่านโบรกเกอร์ไทย

2 . เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ต่างประเทศโดยตรง

การ เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ต่างประเทศโดยตรง เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักลงทุนไทยที่ต้องการเข้าถึงหุ้นระดับโลก เช่น Apple, Amazon, Microsoft, Tesla ฯลฯ ด้วยต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าและแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้หลากหลายกว่า

🌎 โบรกเกอร์ต่างประเทศยอดนิยมที่เปิดรับนักลงทุนไทย

โบรกเกอร์จุดเด่นรองรับหุ้นตลาดไหนบ้าง
Interactive Brokers (IBKR)มืออาชีพใช้เยอะ ค่าธรรมเนียมต่ำสหรัฐฯ, ยุโรป, เอเชีย
TD Ameritrade (ปัจจุบันควบรวมกับ Charles Schwab)ค่าคอมมิชชั่น 0% สำหรับหุ้นสหรัฐฯสหรัฐฯ
eToroใช้งานง่าย มี Social Tradingสหรัฐฯ, ยุโรป, Crypto
Moomooเหมาะกับมือใหม่ เครื่องมือครบสหรัฐฯ, ฮ่องกง
Saxo Bankรองรับหลายตลาดทั่วโลกทั่วโลก (ยุโรป, เอเชีย, สหรัฐฯ)
TradeStation Globalเชื่อมกับ IBKR ได้สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร

📝 ขั้นตอนการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ

  1. เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะกับคุณ (ดูตลาดที่รองรับ ค่าธรรมเนียม ความน่าเชื่อถือ)
  2. ลงทะเบียนออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของโบรกเกอร์
  3. ยืนยันตัวตน (KYC) ด้วยเอกสาร:
    • หนังสือเดินทาง / บัตรประชาชน (บางรายต้องใช้พาสปอร์ต)
    • หลักฐานที่อยู่ เช่น บิลค่าน้ำไฟ หรือ Bank Statement
  4. ฝากเงินเข้าบัญชีเทรด (ส่วนใหญ่ต้องเป็น USD)
    • โอนผ่าน SWIFT, Wise, หรือบัตรเครดิต/เดบิต (ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์)
  5. เริ่มเทรดได้ทันที ผ่านแพลตฟอร์มหรือแอปของโบรกเกอร์

⚠️ สิ่งที่ควรระวังก่อนเปิดบัญชี

  • 💸 ค่าธรรมเนียมแฝง เช่น ค่าแปลงสกุลเงิน, ค่าธรรมเนียมถอน
  • 🏦 ไม่มีการคุ้มครองจาก ก.ล.ต. ไทย ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากประเทศที่น่าเชื่อถือ (เช่น สหรัฐฯ, UK, EU)
  • 🧾 ภาษี: รายได้จากหุ้นต่างประเทศ เช่น เงินปันผลหรือกำไรจากการขาย ต้องยื่นภาษีในไทย
  • 🌐 ภาษาและการใช้งาน: ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และเข้าใจระบบการซื้อขายแบบต่างประเทศ

📌 หมายเหตุสำคัญ:

  • การลงทุนในหุ้นต่างประเทศมี ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
  • ต้องศึกษาเรื่องภาษี เช่น ภาษีปันผลต่างประเทศ
  • สหรัฐฯ จะหักภาษีปันผลไว้ที่ต้นทาง 30% (หรือ 15% หากยื่นแบบ W-8BEN)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *