มีหลายอาชีพที่แม้ว่า AI จะพัฒนาไปไกลมาก แต่ก็ยัง “ยากหรือเป็นไปไม่ได้” ที่จะแทนที่มนุษย์ได้ทั้งหมด เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ระดับสูง, ความเข้าอกเข้าใจ, หรือบริบททางสังคมที่ซับซ้อน ซึ่ง AI ยังมีข้อจำกัดอยู่ เพื่อความอยู่รอดของตัวเราเองและลูกหลานในอนาคต ทำให้พวกเราต้องมามองและวางแผนอาชีพที่อยู่รอดและเป็นอาชีพในอนาคตได้อย่างแท้จริง ซึ่งแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเลยก็คือ การพัฒนา AI ที่จะมีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ลดโอกาสการจ้างแรงงานลง ผลกระทบคือ มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่จะตกงานว่างงาน ตำแหน่งในองค์กรหลายตำแหน่งจะถูกยุบ เนื่องจากได้เทคโนโลยี AI เข้ามาทำหน้าที่แทน ..แล้วอาชีพในอนาคตอะไรที่ AI ไม่สามารถทำได้มาดูกันเลย

อาชีพในอนาคตที่ AI ทำไม่ได้
มีหลายอาชีพที่แม้ว่า AI จะพัฒนาไปไกลมาก แต่ก็ยัง “ยากหรือเป็นไปไม่ได้” ที่จะแทนที่มนุษย์ได้ทั้งหมด เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ระดับสูง, ความเข้าอกเข้าใจ, หรือบริบททางสังคมที่ซับซ้อน ซึ่ง AI ยังมีข้อจำกัดอยู่ โดยสามารถแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ได้ดังนี้
1. อาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ระดับสูง
เช่น:
- นักออกแบบแฟชั่น / ศิลปิน / นักเขียนนวนิยาย
- ผู้กำกับภาพยนตร์ / นักแต่งเพลง
- นักออกแบบเกม / UX Designer
แม้ AI จะช่วย “สร้าง” งานได้ แต่ยังขาด “อัตลักษณ์” และ “บริบทวัฒนธรรม” ที่ลึกซึ้งเหมือนมนุษย์
2. อาชีพที่ต้องใช้ความเข้าใจทางอารมณ์และสังคมลึกซึ้ง
เช่น:
- นักจิตวิทยา / นักบำบัด
- ครู / อาจารย์ / โค้ชชีวิต
- ผู้นำทางศาสนา / ที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณ
การเข้าใจและตอบสนองต่ออารมณ์มนุษย์ต้องอาศัย “ประสบการณ์ชีวิต” และความเห็นอกเห็นใจ ที่ AI ยังเลียนแบบได้ไม่สมบูรณ์
3. อาชีพที่ต้องใช้ความไว้วางใจและจริยธรรมระดับสูง
เช่น:
- ผู้พิพากษา / ทนายความ
- แพทย์เฉพาะทาง / ศัลยแพทย์
- นักสื่อสารมวลชน / นักข่าวภาคสนาม
การตัดสินใจในอาชีพเหล่านี้มีผลกระทบกับชีวิตคนอื่นอย่างลึกซึ้ง ต้องอาศัยวิจารณญาณและจริยธรรมมากกว่าแค่ข้อมูล
4. อาชีพที่ต้องลงมือปฏิบัติในสถานการณ์จริงที่ซับซ้อน
เช่น:
- ช่างฝีมือ / ช่างซ่อม / ช่างก่อสร้าง
- พยาบาล / ผู้ดูแลผู้สูงอายุ
- เชฟระดับสูง / นักชิมอาหาร
AI และหุ่นยนต์อาจช่วยบางส่วนได้ แต่ยังไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนได้ดีเท่ามนุษย์
5. อาชีพที่ต้องสร้างแรงบันดาลใจหรือขับเคลื่อนสังคม
เช่น:
- นักการเมือง / ผู้นำองค์กร
- นักกิจกรรมเพื่อสังคม
- ผู้ประกอบการนวัตกรรม
การโน้มน้าวใจคนอื่น, สื่อสารวิสัยทัศน์ และเปลี่ยนแปลงสังคม ต้องอาศัยมนุษย์ที่มีคาแรกเตอร์และประสบการณ์จริง
6. Influencer, KOL
หรือเรียกง่าย ๆ ว่าไอดอลนั้นเอง ซึ่งความนิยมความชื่นชอบในตัวบุคคลเป็นเสน่ห์ของมนุษย์ที่ AI ทดแทนไม่ได้ เช่น Youtuber, ดารา, นักร้อง
7. Mentor
หรือการเป็นโค้ช ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญจะสามารถขายความรู้ประสบการณ์ที่คนให้ความสนใจ และยังหารายได้อยู่เสมอ ซึ่งจะสามารถสอนผ่านทางออนไลน์หรือเป็นรูปแบบครูอาจารย์ นักแนะแนว
8. ติวเตอร์หรือครูพี่เลี้ยง
เป็นรูปแบบการสอนที่ใกล้ชิดผู้เรียนได้มากขึ้น ยังต้องพึ่งสัญชาตญาณของมนุษย์เพื่อเข้าสื่อในเรื่องความรู้ควบคู่กับอารมณ์
9. ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านอาหาร
ซึ่งต้องยอมรับว่ามนุษย์ต้องการรสชาติ สัมผัส หน้าตา ที่สามารสื่อได้อย่างมีศิลปะ มีความรู้สึกได้มากกว่า ทำให้มนุษย์เกิดอรรถรสในการทานอาหารได้มากกว่า
10. อาชีพเกี่ยวกับการเกษตร
ยิ่งประเทศไทยที่จะไปเชิงการท่องเที่ยงมากขึ้น และพื้นที่ส่วนใหญ่ของไทยเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ทำให้โอกาสในการแปรรูปสินค้าเกษตรไปสู่อาหารแนวใหม่มีมากขึ้นได้เรื่อย ๆ
ทักษะสำคัญในอาชีพที่ต้องใช้ ความคิดสร้างสรรค์ระดับสูง คือชุดทักษะที่ช่วยให้คุณสามารถสร้าง “สิ่งใหม่” ได้อย่างมีคุณภาพ น่าสนใจ และมีคุณค่า ไม่ว่าจะในด้านศิลปะ การออกแบบ การเล่าเรื่อง หรือการแก้ปัญหานวัตกรรม
ทักษะสำคัญที่ทำให้ AI ไม่สามารถทำได้
1. จินตนาการ (Imagination)
- ความสามารถในการนึกภาพสิ่งที่ยังไม่มีอยู่จริง
- สร้างแนวคิดหรือผลงานที่แตกต่างจากสิ่งที่เคยมีมา
ตัวอย่าง: การวาดโลกแฟนตาซี, การคิดโฆษณาแนวใหม่
2. การคิดนอกกรอบ (Thinking Outside the Box)
- มองปัญหาและโอกาสจากมุมที่คนทั่วไปไม่มอง
- สร้างแนวคิดที่ไม่ธรรมดา หรือ “ไม่ซ้ำใคร”
ตัวอย่าง: การออกแบบสินค้าให้ใช้งานหลายฟังก์ชันในชิ้นเดียว
3. การสังเกตและแรงบันดาลใจ (Observation & Inspiration)
- สังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ จากชีวิตประจำวันแล้วเปลี่ยนเป็นไอเดียใหม่
- รับแรงบันดาลใจจากศิลปะ วัฒนธรรม หรือธรรมชาติ
4. การเล่าเรื่อง (Storytelling)
- สื่อสารแนวคิดผ่านเรื่องราวให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ
- ใช้ได้ทั้งในการเขียน บรรยาย วิดีโอ หรือภาพนิ่ง
ตัวอย่าง: การโฆษณาสินค้าโดยเล่าเรื่องแทนการขายตรง ๆ
5. การทดลองและกล้าล้มเหลว (Experimentation & Risk-Taking)
- กล้าลองสิ่งใหม่แม้ไม่แน่ใจว่าจะได้ผล
- เรียนรู้จากความล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง
6. ทักษะเครื่องมือ (Tool Proficiency)
- ใช้โปรแกรมหรือเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างผลงานได้ เช่น:
- Adobe Creative Suite (Photoshop, Illustrator, Premiere)
- Procreate / Figma / Blender / Unity
- หรือแม้แต่ใช้ AI เป็นผู้ช่วยได้อย่างชาญฉลาด
7. ความสามารถในการรับฟังและปรับตัว (Feedback & Adaptability)
- เปิดรับความคิดเห็นจากผู้อื่นเพื่อนำไปพัฒนาผลงาน
- ปรับปรุงไอเดียให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายหรือสถานการณ์จริง
8. ความสามารถในการทำงานร่วมกับคนอื่น (Collaboration)
- การทำงานสร้างสรรค์มักต้องร่วมมือกัน เช่น ทีมออกแบบ, ทีมโปรดักชัน
- เข้าใจบทบาทของตนและผู้อื่นในกระบวนการสร้างสรรค์
✅ สรุป:
แม้ AI จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงหลายอาชีพ แต่อาชีพที่เน้น “หัวใจ”, “จิตวิญญาณ”, และ “ความเป็นมนุษย์” ยังยากที่จะแทนที่ได้ทั้งหมด คนที่ปรับตัวได้ดี คือผู้ที่ “ใช้ AI เป็นเครื่องมือ” ไม่ใช่ถูกแทนที่โดยมัน