แชร์เรื่องนี้

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หรือแปลเป็นไทยว่า “การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา” เช่น Google, Bing, Yahoo เป็นต้น SEOทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงขึ้นในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERP – Search Engine Results Page) เมื่อมีคนค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หรือธุรกิจของคุณ

ประเภทของSEO

  1. On-Page SEO (การทำSEO บนหน้าเว็บไซต์)
    • การใช้คีย์เวิร์ดในเนื้อหา
    • การปรับปรุงโครงสร้างเว็บ (เช่น ชื่อหัวข้อ H1, H2, URL, เมตาแท็ก)
    • ความเร็วเว็บไซต์
    • รูปภาพ (alt text)
    • ความเหมาะสมกับมือถือ (Mobile-Friendly)
  2. Off-Page SEO (การทำSEO นอกเว็บไซต์)
    • การสร้างลิงก์ (Backlinks) จากเว็บไซต์อื่น
    • การแชร์บนโซเชียลมีเดีย
    • ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ (Domain Authority)
  3. TechnicalSEO (เทคนิคเบื้องหลังของเว็บไซต์)
    • โครงสร้างเว็บไซต์
    • Sitemap และ Robots.txt
    • ความปลอดภัย (HTTPS)
    • การจัดทำข้อมูลแบบ Schema

ตัวอย่าง

ถ้าคุณมีร้านขายกาแฟออนไลน์ และคนค้นหาคำว่า “กาแฟคั่วมือ” แล้วเว็บไซต์ของคุณขึ้นมาในหน้าแรกของ Google — นั่นแหละคือผลลัพธ์ของSEO ที่ดี

ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นทำSEO หรืออยากให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ Google แบบยั่งยืน นี่คือ แนวทางเริ่มต้น + เครื่องมือSEO ที่แนะนำ แบบเข้าใจง่ายและใช้งานได้จริง:

วิธีเริ่มต้นทำ SEO (ทีละขั้นตอน)

1. วางแผนคีย์เวิร์ด (Keyword Research)

คำค้นหาที่กลุ่มเป้าหมายใช้ เช่น “ร้านกาแฟเชียงใหม่”, “รองเท้าวิ่งผู้ชาย”

  • ค้นหาคีย์เวิร์ดหลักและคำที่เกี่ยวข้อง
  • ใช้คำที่มีคนค้นหาเยอะ แต่คู่แข่งไม่สูงเกินไป

เครื่องมือแนะนำ

2. ปรับหน้าเว็บ (On-Page )

  • ใส่คีย์เวิร์ดใน
    • Title (ชื่อหน้า)
    • URL (เช่น yoursite.com/กาแฟคั่วมือ)
    • Meta Description
    • หัวข้อ (H1, H2)
    • รูปภาพ (alt text)
  • เขียนเนื้อหาที่มีคุณค่า ตอบคำถามคนอ่านจริง ๆ

เครื่องมือแนะนำ:

  • Yoast SEO (สำหรับเว็บไซต์ WordPress)
  • Rank Math (ปลั๊กอิน WordPress)
  • SurferSEO (วิเคราะห์เนื้อหาเชิงลึก)

3. สร้าง Backlink (Off-Page SEO)

ลิงก์ที่เว็บอื่นลิงก์กลับมาหาเว็บคุณ = ความน่าเชื่อถือ

  • เขียนบทความแลกเปลี่ยนลิงก์กับเว็บไซต์อื่น
  • แชร์บทความผ่าน Social Media
  • ลงเว็บกระทู้หรือเว็บชุมชน (อย่าง Pantip, Reddit)

เครื่องมือแนะนำ:

  • Ahrefs / SEMrush (ดูว่าคู่แข่งได้ Backlink จากไหน)
  • Moz Link Explorer

4. ปรับด้านเทคนิค (Technical SEO)

  • เว็บไซต์โหลดเร็ว (ใช้ PageSpeed Insights)
  • รองรับมือถือ (Mobile Friendly)
  • ใช้ HTTPS (ความปลอดภัย)
  • มี Sitemap / Robots.txt

เครื่องมือแนะนำ:

  • Google Search Console (ฟรี! ต้องใช้)
  • Google PageSpeed Insights
  • GTmetrix (วัดความเร็ว)
  • Screaming Frog (สแกนSEO ทุกหน้าในเว็บ)

5. ติดตามผลและปรับปรุง

SEO ไม่ใช่ทำครั้งเดียวจบ ต้องวัดผลและปรับต่อเนื่อง

  • ดูอันดับคำค้นหาของคุณ
  • ดูทราฟฟิก (จำนวนผู้เข้าชมเว็บ)

เครื่องมือแนะนำ:

  • Google Analytics (ดูคนเข้าเว็บ)
  • Google Search Console (ดูคีย์เวิร์ดที่ติดอันดับ)
  • Ahrefs Rank Tracker / SE Ranking

เครื่องมือSEO ที่ควรมี (ฟรี + จ่ายเงิน)

ประเภทเครื่องมือแนะนำ
ค้นหาคีย์เวิร์ดGoogle Keyword Planner, Ubersuggest
วิเคราะห์เนื้อหาYoast SEO, Surfer SEO
วิเคราะห์คู่แข่งAhrefs, SEMrush
ความเร็วเว็บPageSpeed Insights, GTmetrix
ติดตามอันดับGoogle Search Console, Ahrefs Rank Tracker

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *